เรอัล มาดริด เดินหน้าต่อสู้ทางกฎหมายกับสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (UEFA) หลังออกแถลงการณ์เตรียมดำเนินการทางคดีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนมาก จากผลกระทบของโครงการ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ที่ถูกขัดขวางเมื่อปี 2021

ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน มาดริดคือหนึ่งใน 12 สโมสรชั้นนำของยุโรปที่ประกาศร่วมก่อตั้ง “ซูเปอร์ลีก” ทัวร์นาเมนต์ใหม่ที่จะท้าชนกับแชมเปี้ยนส์ลีกโดยตรง ทว่าทาง UEFA และหลายสมาคมฟุตบอลต่างออกมาต่อต้านอย่างหนัก ขณะที่บรรดาทีมจากอังกฤษต้องถอนตัวภายใต้แรงกดดันจากแฟนบอลทั่วประเทศ

แม้โครงการจะล่มไม่เป็นท่า แต่เรอัล มาดริดยังคงยืนยันว่า UEFA ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการปิดกั้นโครงการดังกล่าว และล่าสุด ศาลจังหวัดมาดริด (Audiencia Provincial) ได้มีคำตัดสินยกคำอุทธรณ์ ของ UEFA, สมาคมฟุตบอลสเปน (RFEF) และ ลาลีกา ทำให้มาดริดมีสิทธิ์ดำเนินการเรียกค่าเสียหายได้เต็มรูปแบบ

ก่อนหน้านี้ ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป (CJEU) ก็เคยชี้ว่า การกระทำของ UEFA ในการปิดกั้นซูเปอร์ลีก “ขัดต่อกฎหมายการแข่งขันของสหภาพยุโรป” ซึ่งสอดคล้องกับคำตัดสินล่าสุดในสเปน

โดยแถลงการณ์จากเรอัล มาดริด ระบุว่า “เรอัล มาดริดขอต้อนรับคำตัดสินของศาลจังหวัดมาดริด ที่ได้ปฏิเสธคำอุทธรณ์จาก UEFA, สมาคมฟุตบอลสเปน และลาลีกา คำตัดสินนี้ยืนยันว่า UEFA ได้ละเมิดกฎหมายการแข่งขันของสหภาพยุโรปอย่างร้ายแรงในกรณีซูเปอร์ลีก ด้วยการใช้อำนาจผูกขาดเกินขอบเขต”

เรียกได้ว่า ศึกซูเปอร์ลีกยังไม่ถึงบทสรุปสุดท้าย และมาดริดยั งคงเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมเต็มที่ งานนี้ UEFA อาจต้องเผชิญกับการฟ้องร้องที่ สั่นสะเทือนวงการลูกหนังยุโรป อีกระลอกแน่นอน