ฟีฟ่าตื่นตัวต่อปัญหาอุณหภูมิสูงในสหรัฐฯ และเดินหน้าวางมาตรการรับมือสภาพอากาศร้อนจัดอย่างจริงจัง หวังให้ศึกเวิลด์คัพ 2026 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่ ปลอดภัยต่อสุขภาพของนักกีฬาและแฟนบอล

สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เตรียมวางมาตรการรับมือกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดในศึก ฟุตบอลโลก 2026 ที่จะจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก หลังจากพบปัญหาอย่างชัดเจนระหว่างการแข่งขัน ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ซึ่งจัดขึ้นในช่วงหน้าร้อนของสหรัฐฯ

การแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่ผ่านมา หลายแมตช์ต้องเล่นท่ามกลางอุณหภูมิสูงถึง 32–35 องศาเซลเซียส ทำให้นักเตะหลายรายมีอาการวิงเวียนศีรษะและเสี่ยงต่อการเป็นลมแดด ซึ่งถือเป็นประเด็นด้านความปลอดภัยที่น่าเป็นห่วง ทำให้หลายทีมประสบปัญหาฝึกซ้อมและพักฟื้นลำบาก โดยเฉพาะในการแข่งขันช่วงกลางวันที่ไม่มีหลังคาคลุมสนาม

ล่าสุด จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานฟีฟ่า ออกมายืนยันว่า ทางองค์กรได้ตระหนักถึงปัญหานี้อย่างจริงจัง และอยู่ระหว่างการประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านสุขภาพกีฬา รวมถึงคณะกรรมการจัดการแข่งขัน เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการลดผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนจัด

“ความร้อนเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก ผมจำใจว่าเคยเจอเหตุการณ์เดียวกันนี้ในการแข่งขัน โอลิมปิก ที่ ปารีส และการแข่งขันฟุตบอลอื่นๆ”

“แต่เรามีสนามกีฬาใน สหรัฐ อเมริกา และอีกแห่งใน แคนาดา คือที่ แวนคูเวอร์ ซึ่งเราจะใช้ประโยชน์จากสนามเหล่านั้นให้มากขึ้นในการแข่งขันระหว่างวัน” อินฟานติโน่ กล่าว

แนวทางเบื้องต้นที่ FIFA เตรียมดำเนินการ

• เลือกใช้สนามที่มีหลังคาปิด เช่น สนามในเมืองดัลลัส แอตแลนต้า และฮิวสตัน เพื่อควบคุมอุณหภูมิระหว่างการแข่งขัน
• ปรับเวลาเตะหลีกเลี่ยงช่วงกลางวัน โดยอาจเลื่อนเกมสำคัญไปช่วงเย็นหรือค่ำ
• เพิ่มช่วงพักดื่มน้ำ (Cooling Breaks) เพื่อให้นักเตะได้พักฟื้นจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด
• ติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ เช่น พัดลมไอน้ำ จุดน้ำดื่ม และพื้นที่หลบแดดบริเวณสนาม
• ประเมินอุณหภูมิด้วยมาตรฐาน Wet-Bulb Globe Temperature (WBGT) เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลื่อนหรือปรับเปลี่ยนการแข่งขัน

นอกจากนี้ องค์กรนักเตะอาชีพ FIFPRO ยังเรียกร้องให้ฟีฟ่าพิจารณาความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นลำดับแรก พร้อมเตือนว่าหากไม่มีการวางแผนอย่างรัดกุม อาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงด้านสุขภาพขึ้นในทัวร์นาเมนต์ที่มีคนติดตามมากที่สุดในโลก

สำหรับ ฟุตบอลโลก 2026 จะมีการแข่งขันทั้งหมด 104 นัด ตลอดระยะเวลา 39 วัน และจัดขึ้นในฤดูร้อนของทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูงที่สุดของปี  การวางแผนรับมือกับความร้อนจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบาย แต่เป็น มาตรการด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน ที่จะส่งผลต่อทั้งนักเตะ ทีมงาน และแฟนบอลทั่วโลก