แม้ “หงส์แดง” จะออกนำก่อนในครึ่งแรก 2-1 และดูเหมือนจะคุมเกมไว้ได้หมด แต่ลูกทีมของ อาร์เน่ ชล็อต กลับเสียรูปเกมในครึ่งหลัง และไม่สามารถปิดเกมได้สำเร็จ ทำให้ต้องลงเอยด้วยการเสมอ และพ่ายในช่วงดวลจุดโทษอีกครั้ง
สำหรับกุนซือชาวดัตช์รายนี้ นี่ถือเป็น ฝันร้ายอีกครั้งที่เวมบลีย์ หลังเคยพ่ายให้กับ นิวคาสเซิล ในศึกคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ก่อนเกม ชล็อตเน้นย้ำกับลูกทีมว่าต้อง “คว้าชัยที่เวมบลีย์” เพื่อสร้างความมั่นใจ แต่สุดท้ายกลายเป็นอีกบทเรียนที่เจ็บปวด
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ พาเลซ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ที่เวมบลีย์เป็นครั้งที่ 2 ในรอบเพียง 85 วัน ต่อจากศึก FA Cup ที่พวกเขาล้ม แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างสุดเซอร์ไพรส์เมื่อเดือนพฤษภาคม
และฮีโร่ของพวกเขาก็ยังเป็นคนเดิม ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารจอมเซฟ ที่โชว์หนึบตลอดเกม และเหนียวแน่นในช่วงดวลจุดโทษ เหมือนกับที่เคยเซฟลูกยิงของโอมาร์ มาร์มูช ในเกมชิงเอฟเอคัพ แม้แฟนหงส์จะปลอบใจได้ว่า “ผู้ชนะคอมมิวนิตี้ ชิลด์” ไม่ได้แชมป์รายการใหญ่ในท้ายฤดูกาลมา 6 ปีติดแล้ว… แต่สำหรับ อาร์เน่ ชล็อต แล้ว มันคือการเริ่มต้นที่ยังต้องเร่งพิสูจน์อีกมาก
