สถานการณ์ในศึกพรีเมียร์ลีกเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งในทีมที่สร้างความประหลาดใจได้มากที่สุดในช่วงต้นฤดูกาลนี้คือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส แฟรงค์ ที่พาทีมไล่จี้จ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล เพียงสองคะแนน หลังออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม

แม้สเปอร์สจะเปลี่ยนกุนซือหลังจบฤดูกาลที่แล้ว แต่ “แฟรงค์” กลับสามารถใช้ประโยชน์จาก “ของขวัญล้ำค่า” ที่อดีตกุนซืออย่าง อังเก้ ปอสเตโคกลู ทิ้งไว้ให้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย — นั่นคือ ตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก ที่ปอสเตโคกลูมอบให้ก่อนอำลา ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก เป็นการจากลาที่สวยงาม และกลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งยุคใหม่ของไก่เดือยทอง

การได้สิทธิ์ไปเล่นในถ้วยใหญ่ของยุโรปเปิดโอกาสให้แฟรงค์ดึงแข้งระดับคุณภาพเข้ามาเสริมทีมอย่างเต็มตัว ทั้ง ชาบี ซิมอนส์, โมฮัมเหม็ด คูดุส และ ชูเอา ปาลินญ่า — สามตัวรุกและมิดฟิลด์ที่เข้ามายกระดับเกมของสเปอร์สให้ดูดุดันและสมดุลกว่าเดิม

โดยเฉพาะ คูดุส ที่เพิ่งยิงประตูแรกในสีเสื้อสเปอร์ส หลังย้ายมาจากเวสต์แฮมด้วยค่าตัวกว่า 55 ล้านปอนด์ เจ้าตัวเริ่มปรับตัวเข้ากับระบบของแฟรงค์ได้ดี และเริ่มตอบแทนความไว้วางใจด้วยผลงานในสนาม

ในเกมล่าสุดที่เอลแลนด์ โร้ด สเปอร์สโชว์ฟอร์มแข็งแกร่ง บุกเอาชนะเจ้าถิ่นได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งแฟรงค์เน้นย้ำหลังเกมว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ “ไม่ได้มาจากแค่ความสร้างสรรค์ในเกมรุกเท่านั้น แต่เกิดจากหัวจิตหัวใจและความมุ่งมั่นของนักเตะทุกคน”

ชัยชนะดังกล่าวส่งให้ไก่เดือยทองทะยานขึ้นรั้ง อันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก มีแต้มตามหลังอาร์เซน่อลเพียง 2 คะแนนเท่านั้น และทำให้ชื่อของโธมัส แฟรงค์ ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในฐานะกุนซือหนุ่มที่กำลังพาทีมก้าวขึ้นมาท้าทายบัลลังก์แชมป์อย่างจริงจัง

แม้แรงกดดันจะเพิ่มขึ้นทุกขณะ แต่ด้วยแนวทางการทำทีมที่มีระเบียบแบบแผน เกมรับเหนียวแน่น และเกมรุกที่เฉียบคมขึ้นทุกนัด ทำให้แฟนสเปอร์สเริ่มกล้าฝันถึงบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าท็อปโฟร์ในปีนี้

จาก “ของขวัญอำลา” ของปอสเตโคกลู สู่ “ภารกิจสร้างประวัติศาสตร์ใหม่” ของโธมัส แฟรงค์ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กำลังกลายเป็นทีมม้ามืดที่ไม่มีใครกล้ามองข้ามอีกต่อไปในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้