มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ออกมาเปิดใจสุดแรง หลังยอมรับว่าเขาต้องทนอยู่ใน “สภาพแวดล้อมที่ไม่มั่นคงมานานมาก” ซึ่งถูกมองว่าเป็นการพาดพิงถึงต้นสังกัดเก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยตรง

แข้งวัย 27 ปี กลับมาระเบิดฟอร์มเก่งอีกครั้งในสีเสื้อบาร์เซโลน่า หลังย้ายมาด้วยสัญญายืมตัวเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยรายงานจาก The Sun ระบุว่า ทีมเจ้าบุญทุ่มถึงกับ “ปลื้มสุดๆ” กับผลงานและทัศนคติของเขาในสนาม รวมถึงความทุ่มเทในการฝึกซ้อมที่แตกต่างจากตอนอยู่ในอังกฤษอย่างชัดเจน

ฤดูกาลนี้ แรชฟอร์ดกลายเป็นผู้เล่นที่มีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดในทีมบาร์ซ่า จากผลงาน 3 ประตูและ 5 แอสซิสต์ในทุกรายการ อีกทั้งยังถูกเรียกกลับมาติดทีมชาติอังกฤษของ โธมัส ทูเคิ่ล เพื่อเตรียมลงเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับลัตเวียในสัปดาห์นี้

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ ITV (ก่อนคลิปจะถูกลบออกจาก X) แรชฟอร์ดได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มั่นคงมานานมาก ทำให้ยากที่จะรักษาความสม่ำเสมอในฟอร์มการเล่นได้ตลอด”

“หากคุณต้องการความสม่ำเสมอในทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่ฟุตบอล คุณต้องมีความต่อเนื่องทั้งในชีวิตและการซ้อม แต่ในอาชีพของผมที่ผ่านมา เรามีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไป ทั้งผู้จัดการ ทีมงาน และแนวทางการเล่น ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลต่อทุกอย่าง” ดาวเตะผู้ดี กล่าว

แรชฟอร์ดยังเผยต่อว่า เขาต้องการมุ่งมั่นกับการพัฒนาตัวเองให้ถึงจุดที่ดีที่สุดอีกครั้ง “เมื่อผมอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด ผมรักทุกอย่างเกี่ยวกับฟุตบอลจริงๆ และผมอยากรักษามันไว้ให้นานที่สุด”

ดาวยิงผู้เติบโตจากอะคาเดมีของแมนฯ ยูไนเต็ดตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ยังยืนยันความตั้งใจชัดเจนว่า อยากย้ายร่วมทีมบาร์เซโลน่าแบบถาวร โดยคาดว่าค่าตัวจะอยู่ราว 25 ล้านปอนด์ ก่อนศึกฟุตบอลโลก 2026 ในทวีปอเมริกา

ก่อนหน้านี้ แรชฟอร์ดเคยให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ The Rest is Football ร่วมกับ แกรี่ ลินิเกอร์ และ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ โดยพูดถึงสถานการณ์ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดว่า ยูไนเต็ดเป็นทีมที่ “ตอบสนองกับปัญหาไปวันๆ” และอยู่ใน “สภาพครึ่งๆ กลางๆ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน”

“ถ้าคุณเปลี่ยนแนวทางไปเรื่อยๆ ทุกปี คุณก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จได้จริงๆ” แรชฟอร์ดกล่าวปิดท้าย